Sunday, 12 May 2024
THE STUDY TIMES

เข้ารอบ Final Pitching  โครงการ Content Lab โปรแกรม “ดิจิทัลคอนเทนต์”

บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) ประกาศรายชื่อ 7 ทีม ผ่านเข้ารอบ Final Pitching โครงการ Content Lab สร้างสรรค์คอนเทนต์ไทย ดันไกลสู่สากล ในโปรแกรม “ดิจิทัลคอนเทนต์ (Digital Content)” สนับสนุนรวมกว่า 150,000 บาท/ทีม และเงินรางวัลสำหรับทีมที่ชนะในรอบ Final Pitching มูลค่ารวม 150,000 บาท พร้อมเปิดโอกาสนำเสนอโครงการให้กับผู้เชี่ยวชาญ และองค์กรชั้นนำของเมืองไทย หวังต่อยอด สร้างสรรค์ และ ประชาสัมพันธ์ผลงานในระดับสากล
นายชาญ กุลภัทรนิรันดร์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่พัฒนาธุรกิจใหม่ บริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า...

ปตท. ได้ปรับการดำเนินงานให้สอดรับกับการเปลี่ยนแปลงในปัจจุบัน โดยมุ่งสร้างความมั่นคงทางพลังงาน ควบคู่กับการต่อยอดธุรกิจใหม่ที่นอกเหนือจากด้านพลังงาน พร้อมเป็นแรงสำคัญขับเคลื่อนอุตสาหกรรมของประเทศ โดยได้มีการสนับสนุนการพัฒนาอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ ซึ่งเป็นหนึ่งในอุตสาหกรรมเป้าหมายที่ทั้งภาครัฐและเอกชนเล็งเห็นถึงโอกาสและศักยภาพที่ช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจและยกระดับคุณภาพชีวิตของคนไทย

ทั้งนี้ ปตท. ร่วมกับ สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์ (องค์การมหาชน) หรือ CEA ในการเปิดคอร์สอบรมพัฒนาทักษะ สำหรับนักสร้างสรรค์คอนเทนต์ ภายใต้ “โครงการ Content Lab สร้างสรรค์คอนเทนต์ไทย ดันไกลสู่สากล” ในโปรแกรมดิจิทัลคอนเทนต์ (Digital Content) สำหรับนักสร้างสรรค์คอนเทนต์ นักเรียน นักศึกษา และบุคคลทั่วไป ได้มีโอกาสเรียนรู้การใช้เทคโนโลยีประกอบการสร้างสรรค์ผลงาน พร้อมเรียนรู้ทักษะการใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่อย่างเข้มข้นจากผู้เชี่ยวชาญในแต่ละสาขา ทั้ง Virtual Production, AR/XR, AR location base, CG, 3D Model ฯลฯ

ผู้เข้าร่วมโครงการทั้งหมด 13 ทีม ได้นำความรู้และประสบการณ์มานำเสนอ Proposal ครั้งที่ 1 ภายใต้หัวข้อ “Meaningful Travel” ส่งเสริมการท่องเที่ยวไทยพร้อมสร้างประสบการณ์ใหม่  แบ่งเป็น 3 หมวด ได้แก่ หมวด Location Base & Platform หมวด Game และหมวด Film & Advertising
.
ทั้งนี้ มีการคัดเลือก 7 ทีม ผ่านเข้ารอบการนำเสนอสุดท้าย (Final Pitching Day) ผู้ที่ผ่านการคัดเลือกจะได้รับการสนับสนุนการผลิตชิ้นงาน จาก บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) และ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เพื่อเตรียมนำเสนอผลงานสุดท้ายต่อคณะกรรมการผู้เชี่ยวชาญ และตัวแทนจากองค์กรชั้นนำของเมืองไทยในวัน Final Product Pitching  วันที่ 26 สิงหาคมนี้ โดยจะมีคัดเลือกผลงานสุดท้ายที่จะได้รับเงินรางวัล พร้อมการประชาสัมพันธ์สู่สาธารณะ หวังต่อยอดและสร้างสรรค์ผลงานในระดับสากล ซึ่งถือเป็นซอฟท์พาวเวอร์ (Soft Power) ที่สำคัญ ให้ประเทศไทยเป็นจุดหมายปลายทางการท่องเที่ยวที่มีคุณค่าควบคู่กับการสร้างมาตรฐานความยั่งยืน

ทีมที่ผ่านการเข้ารอบ ได้แก่
• หมวด Location Base & Platform  
1. ทีมที่ 6 Travel Platform & Virtual Influencer 
2. ทีมที่ 11 Thailand Culture Guide (สายมู) 
3. ทีมที่ 14 Foodscape

• หมวด Game 
1. ทีมที่ 8 Muay Thai VR Game 
2. ทีมที่ 10 Survive the Streets

• หมวด Film & Advertising 
1. ทีมที่ 1 Thatien 
2. ทีมที่ 3 One free day

ผู้ที่สนใจสามารถติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Facebook : Content Lab และ Creative Economy Agency

รักทหารเรือ !!! นิชนันท์ ก้าวไกล พร้อมทำงานกับกองทัพ

ชลบุรี-น้ำ นิชนันท์ วังคะฮาต ผู้สมัคร สส.ชลบุรี เขต 10 อ.สัตหีบ เปิดใจรักทหารเรือ พร้อมที่จะเข้าไปทำงานและปฏิรูปกองทัพ ในเวทีปราศรัยใหญ่พรรคก้าวไกล

 

ที่สวนสาธารณะเทศบาลนครแหลมฉบัง อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี พรรคก้าวไกล จัดเวทีปราศรัยใหญ่ แนะนำนโยบายพรรค และแนะนำว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ชลบุรี ครบทั้ง 10 เขต นำโดยพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล พร้อมด้วย ศิริกัญญา ตันสกุล รองหัวหน้าพรรคฯ เบญจา แสงจันทร์ ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ สุเทพ อู่อ้น ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ และ ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า ผู้ช่วยหาเสียงและร่วมปราศรัย

 

โดย ผู้สมัคร ส.ส.ทั้ง 10 เขต ได้แนะนำตัวและแสดงวิสัยทัศน์ ในการที่จะเข้าไปทำหน้าที่ในสภา หากได้รับการเลือกตั้ง

 

น้ำ นิชนันท์ วังคะฮาต ผู้สมัคร ส.ส.ชลบุรี เขต 10 อ.สัตหีบ ได้ขึ้นเวทีปราศรัยแนะนำตัวและแสดงวิสัยทัศน์ได้อย่างถูกใจพี่น้องประชาชน ได้รับเสียงปรบมือและให้กำลังใจอย่างล้นหลามในขณะปราศรัยแสดงวิสัยทัศน์หากได้รับการเลือกตั้งเข้าไปทำหน้าที่ในสภาผู้แทนราษฎร

 

พร้อมทั้งเปิดเผยต่อสื่อมวลชนว่า พร้อมที่จะทำงานให้กับพี่น้องชาวสัตหีบ สัตหีบเรามีของดีเยอะแยะเลย แต่เรายังไม่มีเวลาได้มาบริหารจัดการสัตหีบ ให้เป็นเมืองท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงคนมาชลบุรี ไม่ได้รู้จักแค่พัทยากับบางแสน สัตหีบของเรามีของดีมากกว่าหลาย ๆ พื้นที่มีชายหาดสวย ๆ งาม ๆ แล้วจะทำอย่างไร ที่จะมาโปรโมทสัตหีบของเรา ในขณะเดียวกันเมืองสัตหีบของเรา เป็นเมืองของทหารเรือก็จริง แต่เรายังมีเรื่องทหารเกณฑ์ ที่ตัวน้ำเองได้เข้าไปทำหน้าที่ในสภา ก็พร้อมที่จะมาปฏิรูปกองทัพ เรารักทหารเรารักทหารอาชีพ เรารักทหารที่เป็นรั้วของชาติ แต่เราไม่อยากเห็นทหารต้องมาแทรกแซงกับการเมือง การเมืองเป็นเรื่องของประชาชนทุกคน ทหารต้องเป็นรั้วของชาติจริง ๆ เพราะฉะนั้นหนึ่งในนโยายการปฏิรูปกองทัพ ของพรรคก้าวไกล คือยกเลิกการเกณฑ์ทหาร โดยให้ทหารมาจากผู้สมัครใจจะเป็นทหารแทน ถือว่าน่าจะตอบโจทย์พี่น้องชาวทหารของเราได้

 

พี่น้องทหารเรือ มีตั้งแต่ระดับนักเรียนจ่าทหารเรือ ตลอดจนพี่น้องในอาชีพทหารเรือถึงพลทหาร มีหลายระดับมีหลายตำแหน่ง การที่จะปฏิรูปกองทัพ มีหลาย ๆ ท่าน ที่ยังอยู่ในหน้าที่ราชการได้ส่ง LINE มาหาส่วนตัวแต่ไม่สามารถแสดงออกได้ เห็นด้วยกับการปฏิรูปและเห็นด้วยกับนโยยายยกเลิกการเกณฑ์ทหาร จึงขอฝากพี่น้องชาวสัตหีบได้ช่วยสนับสนุนด้วย คุณ น้ำ นิชนันท์ วังคะฮาต ยังกล่าวต่ออีกว่า นอกจากนโยบายปฏิรูปกองทัพแล้ว เรายังมีสวัสดิการดี ๆ ของพรรคก้าวไกล ซึ่งเป็นพรรคการเมืองที่นึกถึงประชาชน และพร้อมที่จะอยู่เคียงข้างกับพี่น้องประชาชน และมีความเชื่อมั่นว่าจะสามารถเป็นปากเสียง และกระบอกเสียงให้พี่น้องชาวสัตหีบได้ พร้อมฝากถึงการเลือกตั้งในครั้งนี้ โปรดเลือก น้ำ นิชนันท์ วังคะฮาต และพรรคก้าวไกล เข้าไปทำหน้าที่ในสภาผู้แทนราษฎร ด้วยค่ะ คุณ น้ำ ได้กล่าวในตอนท้าย

จังหวัดคุณธรรม ระยอง จัดงานรวมพลังขับเคลื่อนฯ

เมื่อวันที่ 17 มี.ค. ที่วัดละหารไร่ อ.บ้านค่าย จ.ระยอง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จังหวัดระยอง โดยสำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดระยอง ร่วมกับคณะสงฆ์จังหวัดระยอง และวัดละหารไร่ ได้จัดงานมหกรรมรวมพลังขับเคลื่อนจังหวัดคุณธรรม น้อมนำหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ด้วยพลัง"บวร"จังหวัดระยองขึ้น โดยมีกิจกรรมขบวนแห่พระดีเกจิดังจาก 8 อำเภอของจังหวัดระยอง พิธีเจริญพระพุทธมนต์เจริญจิตภาวนาถวายพระพรชัยมงคลแด่สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา และมีบูธนิทรรศการชุมชนคุณธรรม การออกร้านจำหน่ายของดีทััง 8 อำเภอในงานด้วย พร้อมกับมีพิธีเปิดงานอย่างยิ่งใหญ่ โดยมีว่าที่ ร.ต.พิรุณ เหมะรักษ์ รอง ผวจ.ระยอง เป็นประธานในพิธีเปิดฯ โดยมีนายอนันต์ นาคนิยม รอง ผวจ.ระยอง นายวรวุฒิ ด่านสมพงศ์ วัฒนธรรมจังหวัดระยอง นายฉันท์ แป้นเพชร นายอำเภอบ้านค่าย หัวหน้าส่วนราชการ ผู้บริหาร อปท.และประชาชนในพื้นที่ ร่วมงานจำนวนมาก

 

นอกจากนี้ในพิธีเปิดยังมีการแสดงแสง สี เสียงสื่อผสมทางศิลปวัฒนธรรม มอบเกียรติบัตรให้ ิ"บุคคลต้นแบบคุณธรรมพึงประสงค์" โล่รางวัลการประกวดบูธนิทรรศการชุมชนคุณธรรม และมีศิลปินเพลงลูกทุ่งมาร่วมสร้างความสนุกในงานอีกด้วย โดยงานดังกล่าวจัดขึ้นระหว่างวันที่ 17-19 มี.ค. นี้

 

ทั้งนี้มีวัตถุประสงค์ เพื่อส่งเสริมชุมชนคุณธรรมเป็นศูนย์กลางในการส่งเสริมด้านหลักธรรม ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง วัฒนธรรมไทย ส่งเสริมให้วัด ศาสนสถาน ชุมชน และสถานศึกษาเป็นกลไกสำคัญในการส่งเสริมด้านคุณธรรม รวมทั้งน้อมนำหลักธรรมทางศาสนา ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงมาปฏิบัติปรับใช้ในชุมชนให้มีรายได้ ทั้งผลิตภัณฑ์ชุมชน ทุนทางวัฒนธรรม มาสร้างมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจส่งเสริมการท่องเที่ยวทางวัฒนธรรม ทั้งเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวในพื้นที่อีกด้วย

 

#อีอีซีไทม์

"กัมพล" ประธานบริษัทนงนุช รับเครื่องราชอิสริยาภรณ์ ฐานะทำประโยชน์ ให้การท่องเที่ยวไทย

เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมาที่ ห้องประชุมจรุวัสตร์ ชั้น 10การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ถนนเพชรบุรีตัดใหม่ กรุงเทพฯ นายกัมพล ตันสัจจา ประธานบริษัทนงนุช วิลเลจ จำกัด เข้ารับพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์เบื้องหน้าพระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ชั้นจตุตถดิเรกคุณาภรณ์ ผู้ทำคุณประโยชน์ให้กับอุตสาหกรรมท่องเที่ยว

 

ทั้งนี้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม พระราชเครื่องราชอิสริยาภรณ์ อันเป็นที่สรรเสริญยิ่งดิเรกคุณาภรณ์ในราชกิจจานุเบกษา เล่ม 139 ตอนพิเศษ 2 ข เนื่องจากสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีได้แจ้งให้ ส่วนราชการและหน่วยงานต่างๆ จัดพิธีรับพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์เบื้องหน้าพระบรมฉายาลักษณ์ ในสถานที่ที่เหมาะสม เพื่อเป็นการถวายพระเกียรติตามขั้นตอนการปฏิบัติของสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ได้ดำเนินการประกาศรายชื่อผู้ที่ได้รับพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ ประจำปี 2564 ให้แก่บุคคลภายนอกผู้ทำคุณประโยชน์ให้กับอุตสาหกรรม ท่องเที่ยวเบื้องหน้าพระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

 

ที่มา : สยามโฟกัสไทม์

กระจายความเจริญ!! ‘บิ๊กป้อม’ เร่งผลักดัน ‘Smart Cities’ เมืองอัจฉริยะอาเซียน ขยายเพิ่ม 'เชียงใหม่, ขอนแก่น, ฉะเชิงเทรา, ระยอง'

พล.อ.ประวิตร ประชุมเร่งผลักดัน 'Smart Cities' พัฒนาเมืองให้น่าอยู่ ปลอดภัย มีมติพิจารณา ‘เชียงใหม่, ขอนแก่น, ฉะเชิงเทรา, ระยอง’ เป็นเมืองอัจฉริยะอาเซียน เพิ่มศักยภาพการลงทุน ตามนโยบายรัฐบาล

(9 พ.ย. 65) พล.ท.พัชร์ชศักดิ์ ปฏิรูปานนท์ ผช.โฆษก รอง นรม. เปิดเผยว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ได้เป็นประธานการประชุม คณะกรรมการขับเคลื่อนการพัฒนาเมืองอัจฉริยะ ครั้งที่ 1/2565 ณ ห้องประชุม มูลนิธิอนุรักษ์ป่ารอยต่อ 5 จังหวัด ผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์

ที่ประชุมได้รับทราบ รายงานความคืบหน้าการขับเคลื่อนการพัฒนาเมืองอัจฉริยะ ประจำปี 65 ซึ่งเมื่อ 5 ส.ค. 65 คณะอนุกรรมการขับเคลื่อนฯ ได้มีมติให้ประกาศมอบตราสัญลักษณ์ เพื่อรับรองการเป็นพื้นที่พัฒนาเมืองอัจฉริยะ ประจำปี 65 จำนวน 15 เมือง ใน 14 จังหวัด 
 

19 ตุลาคม ‘วันเทคโนโลยีของไทย’ เทิดพระเกียรติพระอัจฉริยภาพ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9

พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ที่ทรงเป็นพระบิดาแห่งเทคโนโลยีของไทย หลังทรงพระกรุณาบัญชาการปฏิบัติการทำฝนสาธิตด้วยพระองค์เอง เมื่อวันที่ 19 ตุลาคม พ.ศ. 2515

นอกจากจะทรงเป็นนักปกครองแล้ว พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ยังทรงมีอัจฉริยภาพทางด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี จนเป็นที่ประจักษ์ไปทั่วโลก ด้วยเหตุนี้ประเทศไทยจึงให้ความสำคัญกับการพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี และได้กำหนดให้ วันที่ 19 ตุลาคม เป็นวันเทคโนโลยีของไทย 

สาเหตุที่กำหนดให้วันที่ 19 ตุลาคม เป็นวันเทคโนโลยีของไทย เนื่องจาก เมื่อวันที่ 19 ตุลาคม พ.ศ. 2515 หรือเมื่อ 50 ปีที่แล้ว ด้วยพระปรีชาสามารถในการค้นคว้าทดลองและปฏิบัติการทำฝนหวังผล ให้ตกในพื้นที่เป้าหมายได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้ประเทศสิงคโปร์ที่กำลังประสบภาวะแห้งแล้งอย่างรุนแรงเช่นเดียวกับสภาวะแห้งแล้งในพื้นที่ภาคใต้ตอนบน ได้แก่ จังหวัดเพชรบุรี และประจวบคีรีขันธ์ในขณะนั้น ขอส่งนักวิทยาศาสตร์มาสังเกตการณ์และขอรับถ่ายทอดประสบการณ์และความเชี่ยวชาญใน การปฏิบัติการทำฝนหวังผลในประเทศไทย 

ในการนี้ทรงพระกรุณารับบัญชาการปฏิบัติการสาธิตด้วยพระองค์เอง ทรงกำหนดให้อ่างเก็บน้ำของเขื่อนแก่งกระจาน อำเภอแก่งกระจาน จังหวัดเพชรบุรี ซึ่งมีพื้นที่ผิวน้ำเพียง 46.5 ตารางกิโลเมตรหรือ 1,162.5 ไร่ เป็นพื้นที่เป้าหมายหวังผลในการปฏิบัติการทำฝนสาธิตครั้งนี้ ซึ่งเป็นเป้าหมายที่เล็กที่สุดเท่าที่เคยปฏิบัติการค้นคว้าทดลองและปฏิบัติการทำฝนหวังผลที่ผ่านมา ทรงปฏิบัติการฯสาธิต ในวันที่ 19ตุลาคม 2515 ณ ศูนย์บัญชาการฯ สันเขื่อนแก่งกระจาน ทรงสามารถบังคับหรือชักนำฝนให้ตกลงสู่อ่างเก็บน้ำเขื่อนแก่งกระจานอย่างแม่นยำภายในเวลาประมาณ 5 ชั่วโมงนับจากเริ่มปฏิบัติการ เป็นที่ประจักษ์ต่อสายตาและเป็นที่น่าอัศจรรย์แก่นักวิทยาศาสตร์สิงคโปร์ และข้าราชบริพารที่เป็นข้าราชการและข้าราชบริพารระดับสูงที่เฝ้าฯ สังเกตการณ์อยู่ ณ ที่นั้น ต่างประทับใจในพระมหากรุณาธิคุณและพระปรีชาสามารถ  

การสาธิตฝนครั้งนั้น ถือเป็นต้นกำเนิดเทคโนโลยีฝนหลวงที่พัฒนาเป็นการทำฝนมาถึงปัจจุบัน และเพื่อจารึกไว้เป็นเหตุการณ์สำคัญทางประวัติศาสตร์ของชาติไทย ในวันที่ 12 ธันวาคม พ.ศ. 2543  คณะรัฐบาลจึงมีมติให้เทิดพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ทรงเป็น 'พระบิดาแห่งเทคโนโลยีของไทย' และกำหนดให้วันที่ 19 ตุลาคมของทุกปีเป็น 'วันเทคโนโลยีของไทย' เพื่อเป็นการแสดงความจงรักภักดีและรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ที่ทรงมีต่อพสกนิกรชาวไทยมาโดยตลอด โดยได้ทรงศึกษาค้นคว้าวิจัย และทรงนำเทคโนโลยีสมัยใหม่มาประยุกต์ใช้แก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน ตลอดจนเป็นการแสดงเทคโนโลยีที่คิดค้นประดิษฐ์ และพัฒนาโดยคนไทย เพื่อเป็นการกระตุ้นให้สาธารณชนเกิดความเชื่อมั่นและเข้าร่วมพัฒนาเทคโนโลยีของไทย 

นอกจาก 'โครงการฝนหลวง' แล้ว พระองค์ยังทรงเป็นนักประดิษฐ์ และนักวิทยาศาสตร์ ดังจะเห็นได้จากโครงการในพระราชดำริ และที่เป็นสิ่งประดิษฐ์ต่าง ๆ หลายด้าน ตัวอย่างเช่น 

กังหันน้ำชัยพัฒนา พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ได้ทรงประดิษฐ์คิดค้น  'เครื่องกลเติมอากาศที่ผิวน้ำหมุนช้าแบบทุ่นลอย' หรือ 'กังหันชัยพัฒนา' เพื่อทำหน้าที่เติมออกซิเจนลงไปในน้ำ เป็นการลดมลภาวะทางน้ำถือได้ว่า เป็นประวัติศาสตร์ของการออกสิทธิบัตรแก่สิ่งประดิษฐ์ของไทย


TRENDING
© Copyright 2022, All rights reserved. Eec Time Thailand
Take Me Top